ภยตูปัฏฐานญาณ - ภังคญาณ
ภยตูปัฏฐานญาณ
ปรีชาหยั่งเห็นสังขาร ปรากฏโดยอาการเป็นของน่ากลัว เพราะสังขารทั้งปวงนั้นล้วนแต่จะต้อง
แตกสลายไป ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น (ข้อ ๓ ในวิปัสสนาญาณ ๙)
ภยันตราย ภัยและอันตราย,
อันตรายที่น่ากลัว
ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว
(ข้อ ๔ ในอคติ ๔)
ภวตัณหา ความอยากเป็นนั่นเป็นนี่หรืออยากเกิดอยากมีอยู่คงอยู่ตลอดไป,
ความทะยานอยากที่ประกอบด้วยภวทิฏฐิ
หรือสัสสตทิฏฐิ (ข้อ ๒ ในตัณหา ๓)
ภวทิฏฐิ ความเห็นเนื่องด้วยภพ,
ความเห็นว่าอัตตาและโลกจักมีอยู่คงอยู่เที่ยงแท้ตลอดไป เป็นพวกสัสสตทิฏฐิ
ภวังค์ ดู ภวังคจิต
ภวังคจิต จิตที่เป็นองค์แห่งภพ,
ตามหลักอภิธรรมว่า จิตที่เป็นพื้นอยู่ระหว่างปฏิสนธิและจุติ คือ ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย
ในเวลาที่มิได้เสวยอารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ มีจักขุทวารเป็นต้น แต่เมื่อใดมีการรับรู้อารมณ์
เช่น เกิดการเห็น การได้ยิน
เป็นต้น ก็เกิดเป็นวิถีจิตขึ้นแทนภวังคจิต เมื่อวิถีจิตดับหมดไป ก็เกิดเป็นภวังคจิตขึ้นอย่างเดิม
ภวาสวะ อาสวะ คือภพ,
กิเลสที่หมักหมมหรือดองอยู่ในสันดาน ทำให้อยากเป็นอยากเกิดอยากมีอยู่คงอยู่ตลอดไป
(ข้อ ๒ ในอาสวะ ๓ และ ๔)
ภักษา, ภักษาหาร
เหยื่อ, อาหาร
ภัคคะ ชื่อแคว้นหนึ่งในชมพูทวีปครั้งพุทธกาล
นครหลวงชื่อ สุงสุมารคีระ
ภัคคุ เจ้าศากยะองค์หนึ่ง
ที่ออกบวชพร้อมกับพระอนุรุทธะ ได้บรรลุพระอรหัต และเป็นพระมหาสาวกองค์หนึ่ง
เขียน ภคุ ก็มี
ภังคะ ผ้าทำด้วยของเจือกัน
คือ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้ฝ้ายไหม ขนสัตว์ เปลือกป่าน ๕ อย่างนี้ อย่างใดก็ได้ปนกัน
เช่น
ผ้าด้ายแกมไหม เป็นต้น
ภังคญาณ ปัญญาหยั่งเห็นความย่อยยับคือ
เห็นความดับแห่งสังขาร ภังคานุปัสสนาญาณ ก็เรียก