มธุกะ - มโนทุจริต
มธุกะ มะทราง,
น้ำคั้นมะทรางเจือน้ำแล้ว เรียกมธุกปานะ เป็นสัตตาหกาลิกอย่างหนึ่ง ดู ปานะ
มธุรสูตร พระสูตรที่พระมหากัจจายนะแสดงแก่พระเจ้ามธุรราช
อวันตีบุตร กล่าวถึงความไม่ต่างกันของวรรณะ
๔ เหล่า คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ใจความว่าวรรณะ ๔ นี้แม้จะถือตัวอย่างไร
เหยียดหยามกันอย่างไร แต่
ถ้าทำดีก็ไปสู่ที่ดีเหมือนกันหมด ถ้าทำชั่วก็ต้องได้รับโทษไปอบายเหมือนกันหมด
ทุกวรรณะเสมอกันในพระธรรม
วินัย ออกบวชบำเพ็ญสมณธรรมแล้ว ไม่เรียกว่าวรรณะไหน แต่เป็นสมณะเหมือนกันหมด
เมื่อจบเทศนาพระเจ้า
มธุรราชประกาศพระองค์เป็นอุบาสก (สูตรที่ ๓๔ ในมัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
พระสุตตันตปิฎก)
มนะ ใจ
มนตร์ คำที่เชื่อถือว่าศักดิ์สิทธิ์,
คำสำหรับสวด, คำสำหรับเสกเป่า (มักใช้สำหรับศาสนาพราหมณ์)
มนเทียร เรือนหลวง;
โบราณใช้ มณเฑียร
มนสิการ การทำในใจ,
ใส่ใจ, พิจารณา
มนัส ใจ
มนุษย์ ผู้มีใจสูง
ได้แก่คนผู้มีมนุษยธรรม เช่น เมตตา กรุณา เป็นต้น, สัตว์ที่รู้จักคิดเหตุผล,
สัตว์ที่มีใจสูง, คน
มนุษยชาติเหล่าคน,
มวลมนุษย์
มนุษยธรรม ธรรมที่ทำคนให้เป็นมนุษย์
ได้แก่ ศีล ๕ และคุณธรรม เช่น เมตตา กรุณา เป็นต้น
มนุษยโลก, มนุสสโลก
โลกมนุษย์ คือ โลกที่เราอาศัยอยู่นี้
มนุษย์วิบัติ มีความเป็นมนุษย์บกพร่อง
เช่น คนที่ถูกตอน เป็นต้น
มโน ใจ (ข้อ ๖
ในอายตนะภายใน ๖)
มโนกรรม การกระทำทางใจ
ทางชั่ว เช่น คิดเพ่งเล็งจ้องจะเอาของเขา ทางดี เช่น คิดช่วยเหลือผู้อื่น
ดู กุศลกรรมบถ,
อกุศลกรรมบถ
มโนทวาร ทวารคือใจ,
ทางใจ, ใจ โดยฐานเป็นทางทำมโนกรรม คือสำหรับคิดนึกต่างๆ (ข้อ ๓ ในทวาร ๓)
มโนทุจริต ความประพฤติชั่วด้วยใจ,
ความทุจริตทางใจมี ๓ อย่าง ๑. อภิชฌา ความเพ่งเล็งอยากได้จ้องจะเอาของเขา
๒. พยาบาท ความขัดเคืองคิดร้าย ๓. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากคลองธรรม
(ข้อ ๓ ในทุจริต ๓)