แพศย์ - โพธิ์, โพธิพฤกษ์
แพศย์ คนวรรณะที่สาม
ในวรรณะสี่ของคนในชมพูทวีป ตามหลักศาสนาพราหมณ์ หมายถึงพวกชาวนาและพ่อค้า
แพศยา หญิงหากินในทางกาม,
หญิงหาเงินในทางร่วมประเวณี
โพชฌงค์ ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้หรือองค์ของผู้ตรัสรู้มี
๗ อย่างคือ ๑. สติ ๒. ธัมมวิจยะ (การสอดส่องเลือก
เฟ้นธรรม) ๓. วิริยะ ๔. ปีติ ๕. ปัสสัทธิ ๖. สมาธิ ๗. อุเบกขา
โพธิญาณ ญาณคือความตรัสรู้,
ญาณคือปัญญาตรัสรู้, มรรคญาณทั้งสี่มีโสตาปัตติมัคคญาณ เป็นต้น
โพธิ์, โพธิพฤกษ์
ต้นโพธิ์, ต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าได้ประทับ ณ ภายใต้ร่มเงาในคราวตรัสรู้, ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้และต้น
ไม้อื่นที่เป็นชนิดเดียวกันนั้น สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์ไม้อัสสัตถะ
(ต้นโพ) ต้นที่อยู่ ณ ฝั่งแม่น้ำ
เนรัญชรา ตำบลคยา; ต้นโพธิ์ตรัสรู้ที่เป็นหน่อของต้นเดิมที่คยาได้ปลูกเป็นต้นแรกในสมัยพุทธกาล
(ปลูกจากเมล็ด)
ที่ประตูวัดพระเชตวัน โดยพระอานนท์เป็นผู้ดำเนินการตามความปรารภของอนาถบิณฑิกเศรษฐีและเรียกชื่อว่าอา
นันทโพธิ; หลังพุทธกาล ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระนาง สังฆมิตตาเถรี
ได้นำกิ่งด้านขวาของต้นมหาโพธิที่
คยานั้นไปมอบแด่พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ทรงปลูกไว้ ณ เมืองอนุราธปุระ ในลังกาทวีป
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้เก่า
แก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน; ในประเทศไทย สมัยราชวงศ์จักรี
พระสมณทูตไทยในสมัย
ร.๒ ได้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระมา ๖ ต้น ใน พ.ศ. ๒๓๕๗ โปรดให้ปลูกไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช
๒ ต้น นอกนั้นปลูกที่วัดมหาธาตุ วัดสุทัศน์ วัดสระเกศและที่เมืองกลันตัน แห่งละ
๑ ต้น; ต่อมาในสมัย ร.๕ ประเทศ
ไทยได้พันธุ์ต้นมหาโพธิจากคยาโดยตรงครั้งแรก ได้ปลูกไว้ ณ วัดเบญจมบพิตรและวัดอัษฎาง
คนิมิตร