สำหรับสิ่งที่เรียกว่า
สัญชาตญาณ เข้าใจว่าคงเคยศึกษาเล่าเรียนมา ในเรื่องวิทยาศาสตร์ เรื่อง
Biology อะไรกันมาแล้ว พอจะรู้เรื่อง แต่ไม่ได้ศึกษาถึงข้อที่ว่า จะจัดการกับมันอย่างไร
ทางธรรมะนี้ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรอื่น เป็นวิชาความรู้ที่จะบังคับสัญชาตญาณนั้นเอง
ให้มันกลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง ถ้าว่าตัดความรู้สึกที่เป็นสัญชาตญาณได้
มันก็เป็นอรหันต์เท่านั้นแหละ อย่าเพ่อพูดถึงเลย มันยังอยู่ไกลไป ไม่ต้องพูดถึงการตัดสัญชาตญาณเด็ดขาดเป็นพระอรหันต์
เอาแต่ว่าบังคับได้ ควบคุมได้ เปลี่ยนกระแสของมันเสียให้เป็นประโยชน์ได้
ก็ประเสริฐถมไปแล้ววิชาธรรมะคือวิชานี้ คือวิชาที่จะควบคุมบังคับ คือจะเปลี่ยนกระแสของสัญชาตญาณอันร้ายกาจ
ให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีโทษ ให้มีประโยชน์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าได้อย่างนี้มันพอหรือไม่พอ
ในการที่จะเสียเวลา เสียเงิน เสียอะไร มาศึกษาธรรมะ มาหาความรู้เรื่องธรรมะ
อาตมาคิดว่าเกินพอ ถ้าได้วิชาความรู้เหล่านี้จริง ไปใช้ประโยชน์ได้จริง
ควบคุมสัญชาตญาณได้จริง มันก็สบายกว่านี้ ชีวิตสดใสเยือกเย็นในความหมายแห่งคำว่า
นิพพาน ไม่มีนิวรณ์ 5 รบกวน มันสดชื่นแจ่มใสสักเท่าไร ไม่มีความรู้สึกทางเพศรบกวน
ไม่มีความรู้สึกทางเกลียดรบกวน ไม่มีความรู้สึกหดเหี่ยวฟุ้งซ่านรบกวน
ไม่มีความลังเลในชีวิตรบกวน มันสดชื่นเยือกเย็นสักเท่าไร เพียงไม่มีนิวรณ์
5 นี้ก็พอเสียแล้ว ถ้าควบคุมโลภะ โทสะ โมหะ ได้ มันก็ยิ่งวิเศษยิ่งขึ้นไปอีก
คือ มันไม่ลุกขึ้นมาในจิตใจ นี้ก็เลยเหมือนกับว่าโลกใหม่ ชีวิตใหม่ในโลกใหม่
ในโลกของพระอริยเจ้า ที่มีแต่ความสะอาด สว่าง สงบ มีความเยือกเย็น
มีความเป็นอิสระ มีความโล่งโถง ไม่มีอะไรจะบีบคั้นหุ้มห่อ มันก็ควรไหมที่ว่าจะเรียกมันว่ามันเป็นชีวิตใหม่
มันก็ชีวิตเดิมนั่นแหละ แต่มันถูกทำให้เป็นของแปลกออกไป จากที่จะปล่อยไปตามธรรมชาติของสัญชาตญาณ
มันก็ได้ผลตรงกันข้าม คือว่า เดี๋ยวนี้เราอยู่เหนือการบีบบังคับของสัญชาตญาณ
ซึ่งอยู่ในระดับสัญชาตญาณล้วน ๆ หรืออยุ่ในระดับที่เป็นกิเลสอันร้ายกาจก็ตาม
มันก็ได้ชีวิตเย็น ในความหมายของคำว่า นิพพาน
คำว่า นิพพาน
นิพพาน นิพพานนี้ ยังเข้าใจผิดกันอยู่หลายอย่าง หรือไม่เข้าใจความหมายอันถูกต้องของนิพพาน
ก็เลยไม่ต้องการนิพพาน แล้วคำสอนที่พูดสอน ๆ กัน ก็ไกลสุดเอื้อม จนเห็นว่าเหลือวิสัยที่จะทำได้
นั้นมันเป็นคำพูดของใครก็ไม่รู้ ต้องขออภัยที่จะใช้ว่า คำพูดของคนไม่รู้จักนิพพาน
เป็นคำพูดของคนโง่ต่อพระนิพพาน จึงพูดอย่างนั้น ถ้าพูดกันให้ตรงตามจริง
ตามธรรมชาติที่เป็นอยู่จริง คำว่า นิพพาน ก็คือ ชีวิตใหม่ อย่างที่ว่า
หลุดรอดออกมาได้จากการบีบคั้นของสัญชาตญาณและกิเลสทั้งหลาย มามีชีวิตใหม่อย่างนี้
ก็เรียกว่า นิพพาน คือ เย็น ชีวิตเย็น อย่าตีความหมายอะไรให้มันสุดโด่งไปนัก
ขอให้ถือเอาความหมายของคำว่า นิพพาน นิพพานนี้ว่า เย็นไว้ก่อน
|