ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าอาวาสวัดท่าไทร ได้มีความปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะให้มีการจัดตั้งมูลนิธิขึ้น
เพื่อจะได้นำดอกผลออกมาใช้จ่ายในการบูรณะปฏิสังขรณ์ และก่อสร้างถาวรวัตถุตลอดถึงอุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสามเณรภายในวัดท่าไทร
เพราะถาวรวัตถุที่ได้สร้างไว้ย่อมชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทั้งที่จะต้องสร้างขึ้นใหม่ก็ย่อม
มีตามกาลสมัย ผู้ที่บรรพชาอุปสมบทอยู่ประจำที่วัดท่าไทรก็มีเป็นจำนวนมาก
จึงเป็นเหตุให้ต้องใช้จ่ายเงินมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ก็คือ การอุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสามเณร
ข้าพเจ้าได้พยายามรวบรวมเงินไว้
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้จำนวน ๑๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท (หนึ่งแสน
บาทถ้วน) ซึ่งครบตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างต่ำในการขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
เงินจำนวนดังกล่าวได้ฝากไว้ที่ "ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาบ้านดอน
กรรมการ ๗ ท่านที่ปรากฏชื่อในบัญชีรายชื่อกรรมการ
"สิญจน์อุทิศดิตถารามมูลนิธิ" ได้รับมอบหมายจากข้าพเจ้าให้เป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นจนสำเร็จตามความประสงค์
กล่าวคือ ได้ออนุญาตจัดตั้งมูลนิธิ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ และได้รับอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิจากทางราชการเมื่อวันที่
๙ สิงหาคม ๒๕๒๒
ความปรารถนาที่จะตั้งมูลนิธิของข้าพเจ้าสำเร็จตามปณิธาน
ด้วยความร่วมมือจากกรรมการทุกท่าน โดยเฉพาะ จ่าสิบเอกประสิทธิ์ โกละกะ
ผู้ช่วยสัสดีอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ทำหน้าที่ประสานงาน,
พิมพ์เอกสาร และตราสาร จึงขอขอบคุณกรรมการทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
พระครูดิตถารามคณาศัย
(ชม คุณาราโม)
เจ้าอาวาสวัดท่าไทร
ที่มา : หนังสือตราสารของ "สิญจน์อุทิศดิตถารามมูลนิธิ"
หน้า ๑
|