ศธ.จับมือวธ.
เดินหน้า 4 โครงการความร่วมมือสนับสนุนวัฒนธรรมไทย ศีลธรรม ดนตรีไทย
ดนตรีพื้นบ้านให้กับนักเรียนนักศึกษา เริ่มร่างแผนปฏิบัติการดำเนินการ
5 ปีต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยโครงการครูพระสอนศีลธรรม ซึ่ง วธ. ร่วมกับวัด
สร้างพระนักสอนทักษะศีลธรรมเตรียมพร้อมให้กับสถานศึกษาของ ศธ.
ภายหลังการประชุมโครงการความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม
(วธ.) กับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมี นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ
ศธ. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ วธ. และผู้บริหารของ
5 องค์กรหลักของ ศธ. และ วธ. โดยนายวีระศักดิ์ แถลงหลังประชุมว่าบันทึกข้อตกลงที่
2 กระทรวงจะเริ่มดำเนินกิจกรรมปีแรกมีด้วยกัน 4 โครงการ คือ โครงการครูพระสอนศีลธรรม
ซึ่ง วธ. ร่วมกับวัด สร้างพระนักสอนทักษะศีลธรรมเตรียมพร้อมให้กับสถานศึกษาของ
ศธ. โดยให้พระถ่ายทอดสื่อสารกับเด็กแต่ละชั้นปีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้
จะต้องรักษาให้มีคุณภาพและขยายผลให้ทั่วถึง สร้าง บวร บ้าน วัด โรงเรียน
กลับคืนสังคมอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อพระเข้าไปสู่ห้องเรียนแล้ว เด็กที่ได้รับการสื่อสารก็จะไปถ่ายทอดให้กับครอบครัว
ชุมชน และชักจูงผู้ปกครองเข้าหาสถาบันพระศาสนา ขณะที่พระก็จะมีบทบาทต่อสังคม
ชุมชน โครงการศิลปะ ดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้านในสถานศึกษา จะมีการจัดอบรมครูเพื่อเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้สอนให้เด็กเข้าถึงศิลปะดนตรีไทยดนตรีพื้นบ้าน
ซึ่งโครงกานี้เบื้องต้น ศธ.จะตั้งเป้าจับที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ
แต่ ศธ. ต้องการให้ขยายไปทุกระดับชั้น
นายวีระศักดิ์
กล่าวต่อว่า โครงการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาโดยภูมิปัญญาไทย ประวัติศาสตร์และแหล่งเรียนรู้ให้มีการศึกษาองค์ความรู้ด้านนี้ในท้องถิ่นโดยความร่วมมือของสภาวัฒนธรรมอำเภอ
ตำบล และสถานศึกษา เพื่อค้นคว้าวิจัยว่ามีส่วนใดที่นักเรียนนักศึกษามีศักยภาพจะไปทำได้
และโครงการเชื่อมโยงห้องสมุดทั้งหมดที่มีอยู่เข้าเป็นเครือข่ายหอสมุดแห่งชาติสู่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยและโรงเรียน
ทั้งนี้ ห้องสมุดเครือข่ายของ ศธ. มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้น จะมีการปรับปรุงเชื่อมโยงข้อมูลแหล่งค้นคว้าหนังสือที่สำคัญของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนแสดงไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ
ทางด้านนายปิยะบุตร
กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะทำงานตามโครงการที่จะดำเนินการ 4 ชุด มีตัวแทนของ
5 องค์กรหลักของ ศธ. และหน่วยงานของ วธ. ร่วมกับพูดคุยรายละเอียดของการปฏิบัติแล้วมาสรุปอีกครั้งวันที่
23 ธันวาคม เพื่อวางแผนปฏิบัติการระยะเวลา 5 ปี
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการ
23 พ.ย.47
|