|  
             ๑๒. 
              กิจกรรมที่วัดจัดทำเป็นประจำทุกปี.-   
                
             
              ๑.จัดอบรมนักเรียนบาลีก่อนสอบบาลีสนามหลวง 
                เป็นเวลา ๑๖ วัน ในระหว่างเดือน มกราคม 
                - กุมภาพันธ์ ของทุกปี ๆ ละ ๑ ครั้ง สิ้นเงินปีละประมาณ ๓๘๐,๐๐๐.๐๐ 
                บาท 
              ๒.จัดงานเข้าประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมเข้าปริวาสกรรมและบวชชีพราหมณ์ปฏิบัติธรรม 
                ในวันที่ ๑๕ - ๒๕ เดือน มีนาคม ของทุก ๆ ปี มีพระภิกษุสามเณรจากทั่วประเทศ 
                จำนวน ๑๐๐ - ๒๔๐ รูป และมีประชาชนมีจิตศรัทธาให้ความสนใจร่วมบวชชีพราหมณ์ปฏิบัติธรรม 
                ประมาณ ๘๐ -๑๔๐ คน สิ้นเงินปีละประมาณ ๑๔๐,๐๐๐.๐๐ บาท 
             
              
               
            ภาพกิจกรรมในงานประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมและบวชชีพราหมณ์ 
               
              ซึ่งจัดมานานกว่า ๒๐ ปี 
              (ในภาพ ประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ประมาณ 
              ๒๐๐ รูป) 
             
              ๓.จัดให้มีการบรรพชาและอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน 
                เพื่อพัฒนาเยาวชนในภาคฤดูร้อน ในระหว่างวันที่ ๑๐-๓๐ เมษายนของทุก 
                ๆ ปี สิ้นเงินปีละประมาณ ๑๘๕,๐๐๐.๐๐ บาท 
             
            
               
                |  
                  
                 | 
                  | 
               
               
                |  
                   ภาพพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน, 
                    และภาพประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรฉลองสามเณรบวชใหม่  
                    ่ในงานบรรพชาและอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน 
                 | 
               
             
             
              ๔.จัดให้มีงานสรงน้ำพระและดำหัวผู้สูงอายุ 
                ซึ่งเรียกงานนี้ว่า งานวันกตัญญู เป็นประจำทุกปี 
                ในระหว่างวันแรม ๑๒ - ๑๓ - ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ ของทุก ๆ ปี สิ้นเงินในการดำเนินการปีละประมาณ 
                ๑๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท - ๒๘๐,๐๐๐.๐๐ บาท 
                ๕.เปิดดำเนินการเรียนการสอน(พระภิกษุสามเณร) แผนกธรรม - บาลี ในต้นเดือน 
                พฤษภาคม เป็นต้นไปของทุก ๆ ปี สิ้นเงินปีละประมาณ ๗๕,๐๐๐.๐๐ บาท 
                ๖.เปิดดำเนินการเรียนการสอนนักเรียนในโรงเรียน แผนกธรรมศึกษาในโรงเรียน 
                วัดท่าไทร (ดิตถานุเคราะห์) ในระหว่างเดือน มิถุนายน- พฤศจิกายน 
                ของทุก ๆ ปี สิ้นเงินในการดำเนินการปีละประมาณ ๓๕,๐๐๐.๐๐ บาท 
                ๗.จัดส่งพระภิกษุซึ่งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมไปทำการสอนในสำนักศาสนศึกษาต่าง 
                ๆ เช่น วัดแสงประดิษฐ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์, วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อำเภอดอนสัก, 
                โรงเรียนกาญจนดิษฐ์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ เป็นต้น เป็นประจำทุกปี 
                ๘.จัดให้มีงานอนุรักษ์ประเพณี ทำบุญข้าวตอกประจำปี ทุกวันแรม 
                ๘ ค่ำ เดือน ๘ (หลังเข้าพรรษาแล้ว ๗ วัน)  
                ๙.จัดงานเทศนามหาชาติและบวชชี-พราหมณ์ เพื่อร่วมปฏิบัติธรรมและฟังธรรม 
                ในระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๖ - ๒๗ สิงหาคม ของทุกปี สิ้นเงินปีละประมาณ 
                ๑๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท  
             
            
               
                |  
                  
                 | 
                  | 
               
               
                |  
                  
                 | 
                  | 
               
               
                |  
                   ภาพถ่ายงานประเพณีเทศน์มหาชาติและงานทำบุญฉลองอายุ 
                    "พระราชพิพัฒนาภรณ์" ประจำปี ๒๕๔๕ 
                    ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 
                    ๒๔ -๒๖ สิงหาคม ของทุกปี 
                 | 
               
             
             
              ๑๐.จัดงานวันสารท 
                เดือน ๑๐ (งานรับ -ส่ง ตายาย) เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของ 
                ชาวภาคใต้ของไทย ในเดือน ๑๐ ของทุก ๆ ปี 
              ๑๑.ประเพณีห่อข้าวต้มลูกโยนออกพรรษา 
                โดยจัดให้มีประเพณีห่อข้าวต้มลูกโยน หรือภาษาถิ่นเรียกว่า "แทงต้ม" 
                โดยใช้ข่าวสารเหนียวปีละประมาณ ๖๔ - ๙๙ ถัง ตามโอกาสที่เห็นสมควร 
                โดยกระทำสืบทอดมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ เพื่อแจกจ่ายกันนำไปรับประทาน เนื่องใน 
                งานประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า ประจำปีของจังหวัด สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์และสืบสานประเพณี 
                วัฒนธรรมอันดีงามของไทย  
                       โดยในแต่ละปีจะมีชาวบ้านหลายร้อยคน 
                จากหลายอำเภอทั้งใกล้ ไกล ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และต่างจังหวัด 
                ได้ร่วมกันทำขนมต้ม ในวันขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (ในเทศกาลวันออกพรรษา) 
                ของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ตั้งแต่เช้ามืด 
                จนกระทั่งดึก ชาวบ้านจะพร้อมใจกันเดินทางมายังวัดท่าไทร เพื่อร่วมกันห่อข้าวต้มลูกโยนที่วัดท่าไทร 
                ด้วยความสมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อจะได้ใช้ทำบุญตักบาตร และแจกจ่ายประชาชนที่มาร่วมงานบุญชักพระ-ทอดผ้าป่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี 
                ที่จะมีขึ้นในเช้าตรู่ของวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยคณะพุทธบริษัทจะนำขนมต้มไปไว้ในรถพนมพระ 
                และแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาทำบุญและร่วมงานประเพณีชักพระของสุราษฎร์ธานี 
                       สำหรับการทำขนมต้มของวัดท่าไทร 
                กระทำสืบทอดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เป็นต้นมา พร้อมกับประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า 
                ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือวันออกพรรษา โดยเจริญรอยตามแบบอย่างชาวพุทธครั้งในอดีต 
                ตามพุทธประวัติที่ปรากฏว่า พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
                เพื่อเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดาจนครบไตรมาสแล้ว ถึงวันแรม ๑ 
                ค่ำ เดือน ๑๑ จึงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่ประตูเมืองสังกัสสะ 
                ประชาชนพากันไปต้อนรับพระพุทธองค์และทำบุญตักบาตรอย่างเนืองแน่น 
                และได้มีการห่อข้าวต้มลูกโยน ทำบุญใส่บาตรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา 
                       ขั้นตอนการทำนั้น 
                คือ การผัดข้าวเหนียวด้วยกะทิสด พอได้ที่แล้วก็จะใส่ถั่ว และน้ำตาล 
                จนได้ที่ ก่อนมาห่อด้วยใบกะพ้อ ที่สอดมัดกันเองโดยไม่ต้องใช้ตอกหรือเชือก 
                และ "ห่อมัด" ซึ่งคล้ายกับห่อต้ม ต่างกันก็แต่ห่อด้วยใบจากหรือมะพร้าวอ่อน 
                เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณ 4-5 นิ้ว แล้วใช้เชือกมัดเป็นเปลาะ 
                ๆ ก่อนนำไปต้มแล้วนำไปนึ่งประมาณ ๔๕ นาที จึงจะสุกนำมารับประทาน 
                และแจกจ่ายได้  
              
                 
                  |  
                    
                   | 
                 
                 
                  |  
                     ข้าวต้มลูกโยน 
                      หรือภาษาถิ่นเรียกว่า "แทงต้ม" 
                      ที่ห่อเสร็จใหม่ ๆ 
                   | 
                 
                 
                  |  
                    
                   | 
                 
                 
                  |  
                     ที่ผ่านกระบวนการต่าง 
                      ๆ พร้อมรับประทานได้ ที่บรรจุในถุง ๆ ละ ๗ - ๑๐ ลูก พร้อมแจกจ่าย 
                   | 
                 
               
              ๑๒.จัดทำเรือพนมพระและรถพนมพระเข้าร่วมในขบวนแห่ของ 
                งานประเพณีชักพระ- ทอดผ้าป่า ประจำปีของจังหวัด สุราษฎร์ธานี 
                เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์และสืบสานประเพณี วัฒนธรรมไทย (ภาคใต้) 
                ในเทศกาลออกพรรษา ของทุก ๆ ปี (ประมาณเดือน ตุลาคม) 
         
              
              
              
            ภาพแสดงขบวนแห่รถพนมพระของวัดท่าไทร 
               
              ซึ่งจัดเข้าร่วมบวนแห่ในงานประเพณีชักพระทอดผ้าป่าออกพรรษา ของ จ.สุราษฎร์ธานี 
              ทุก ๆ ปี 
              
              
              
             
              ๑๓.ประเพณีทอดผ้าป่าออกพรรษา 
                          
                การทอดผ้าป่านี้ ในทางพระพุทธศาสนานับเป็นการกุศลอันสำคัญ 
                เพราะพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ต้องใช้ผ้าบังสุกุลจีวรเป็นปัจจัยเครื่องอาศัยประการหนึ่ง 
                พึงเห็นว่าเมื่อพระอุปัชฌาย์ให้อุปสมบทแก่กุลบุตรแล้ว ก็บอกอนุศาสน์ 
                คือ คำสอนเบื้องต้น ในบัดนั้น ในอนุศาสน์นั้น มีการสอนให้ใช้ผ้าบังสุกุลจีวรเป็นนิตย์อยู่ด้วย 
                แต่ก็ทรงอนุญาตให้ใช้ผ้าเป็นอติเรกลาภอย่างอื่นได้เหมือนกัน ผู้ทอดผ้าบังสุกุลจีวร 
                (ผ้าป่า) นั้น ก็ได้ชื่อว่าช่วยให้พระภิกษุสงฆ์ได้รักษาประเพณีข้อนี้ให้มั่นคงอยู่ได้ 
                       การทอดผ้าป่านั้น 
                เคยมีมาแต่ครั้งพุทธกาล ที่เป็นครั้งสำคัญที่สุดก็คือ เมื่อครั้งนางบุณณทาสี 
                ธิดาของเศรษฐีตระกูลหนึ่งถึงแก่มรณะ เจ้าภาพก็เอาผ้าเนื้อดี ทอดเป็นผ้ามหาบังสุกุลนี้ 
                ได้บังเกิดมหาอัศจรรย์ มีแผ่นดินไหวถึงเจ็ดครั้ง มหาชนต่างก็นมการทอดผ้าป่าแต่นั้นเป็นลำดับมา 
                แต่ก็ไม่ได้จำกัดเวลาว่า จะทอดกันเวลาไหน เมื่อใครจะมีศรัทธา และพร้อมเมื่อไรก็สามารถทอดถวายแด่พระสงฆ์ได้ทันที 
                 
                       ส่วนการทอดผ้าป่าแด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาในวัดต่าง 
                ๆ ในวันออกพรรษาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ 
                นิยมจัดผ้าอันเป็นบังสุกุลจีวร พร้อมด้วยเครื่องบริวารต่าง ๆ ที่จะขาดเสียมิได้ก็คือผ้าหนึ่งผืนเพื่อให้พระสงฆ์พิจารณา 
                และอาหารปิ่นโต ๑ เถา เพื่อถวายให้พระท่านได้ฉัน ส่วนสิ่งของนอกจากที่กล่าวมานั้นก็มีการจัดถวายพระสงฆ์ตามกำลังศรัทธา 
                โดยนิยมจัดพุ่มผ้าป่าไว้บริเวณหน้าบ้าน มีเลขหมายประจำพุ่มไว้ บางบ้านก็จัดทำพุ่มผ้าป่าอย่างงดงามและมีการประกวดกัน 
                มีกรรมการซึ่งทางเทศบาลได้จัดตั้งขึ้นพิจารณาให้ได้รับรางวัล เป็นเกียรติ 
                เป็นที่ระลึกในการบำเพ็ญกุศล ผู้จัดการคือเทศบาลและอำเภอร่วมกัน 
                ได้นำสลากนั้น ๆ ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงแล้วแต่ท่านจะจับสลากได้แล้ว 
                ก็นิมนต์ไปชักผ้าป่าตามสถานที่นั้น ๆ ในเวลาเช้าตั้งแต่ ๐๖.๐๐ น. 
                เป็นต้นไป อันนับว่าเป็นกุศลสังฆทานในพระพุทธศาสนาประการหนึ่ง 
                
              
              ภาพถ่าย นางพยอม 
                สารสิน 
                ผู้ริเริ่มงานประเพณีทอดผ้าป่าออกพรรษาของ 
                วัดท่าไทร และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
                ซึ่งเป็นมรดกไทย มรดกโลก  
                        ประเพณีการทอดผ้าป่าในเทศกาลวันออกพรรษา 
                ซึ่งตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีตามที่ได้กระทำกันอยู่ 
                ณ บัดนี้ ได้มี นางพยอม นามสกุลเดิมคือ เริ่มก่อสกุล (ธิดาของนายเอม 
                นางขำ เริ่มก่อสกุล) ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ตลาดท่าทองใหม่ ตำบลท่าองใหม่ 
                อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีประเพณีทอดผ้าป่าออกพรรษาขึ้น 
                ณ วัดท่าไทร ตำบลท่าองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
                ทุกวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ (หลังออกพรรษา ๑ วัน) ขณะเดียวกันได้จัดให้มีการชักพระ 
                (ชักลากพระ) โดยใช้เรือทางน้ำ เรือทางบก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะบูชาให้เกิดสิริมงคลในโอกาสออกพรรษา 
                เทียบเคียงการจัดฉลองวันเทโวโรหณะในอดีตกาลครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ 
                และมีการละเล่นกีฬาทั้งทางบกและทางน้ำอย่างสนุกสนาน ซึ่งประเพณีดังกล่าวยังคงได้รับการอนุรักษ์ให้มีอยู่จวบจนกระทั่งปัจจุบัน 
                 
                       ต่อมานางพยอม 
                เริ่มก่อสกุล ต่อมาภายหลัง สมรสกับ นายฉาย สารสิน จึงได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น 
                สารสิน ตามสามี ได้ย้ายไปอยู่ กับสามี ที่ตรอกไม้ไผ่งาช้าง ข้างวัดกลาง 
                ในตลอดบ้านดอน และได้ได้จัดให้มีประเพณีดังกล่าวขึ้นอีกที่บ้านดอน 
                (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ในปัจจุบัน) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยเริ่มแรกได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดท่าไทรเป็นหลักในการไปพิจารณาผ้าบังสุกุล 
                ซึ่งภายหลังเจ้าอาวาสวัดท่าไทรในขณะนั้น ก็ได้แนะนำให้นิมต์พระภิกษุซึ่งจำพรรษาอยู่ในวัดที่อยู่ในบ้านดอนซึ่งใกล้บ้านไปพิจารณาชักผ้าบังสุกุล 
                (ผ้าป่า)ด้วย จึงถือเป็นประเพณีปฏิบัติซึ่งได้กระทำกันสืบต่อมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ 
                 
                       ครั้นกาลล่วงมาถึง 
                หลวงพ่อชม คุณาราโม (ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูดิตถารามคณาศัย) 
                ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าไทร พ.ศ. ๒๔๗๑ ท่านได้พิจารณาเห็นว่าไม่เป็นการสะดวกแก่พระภิกษุสามเณรในการที่จะไปพิจารณาผ้าบังสุกุล 
                (ชักผ้าป่า) ซึ่งนางพยอมได้นิมนต์เอาไว้ เพราะจัดในวันเดียวกันกับประชาชนพุทธบริษัทบ้านท่าทองใหม่ 
                จึงได้เลื่อนการจัดประเพณีดังกล่าวของวัดท่าไทรจากวันแรม ๑ ค่ำ ไปเป็น 
                แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ (หลังจากที่นางพยอมจัดทำและทอดผ้าป่าที่ตลอดล่าง 
                บ้านดอนเป็นเวลา ๗ วัน)  
                 
                       และต่อมา 
                พ.ศ. ๒๕๒๒ (๑๒ พ.ย. ๒๕๒๒) พระครูดิตถารามคณาศัย ได้มรณภาพลง 
                 
                       พ.ศ. 
                ๒๕๒๒ พระมหาสนอง วิโรจโน ป.ธ. ๙ ได้รับหน้าที่เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดท่าไทร 
                และได้สืบสานประเพณีดังกล่าวไว้เช่นเดิม 
                 
                       ต่อมา 
                พ.ศ. ๒๕๒๓ พระมหาชูชาติ กนฺตวณฺโณ (พระราชทินนามปัจจุบันคือ พระราชพิพัฒนาภรณ์) 
                ได้เป็นเจ้าอาวาส และท่านได้พิจารณาเห็นว่าเพื่อให้เกิดกายสามัคคีจึงได้ริเริ่มให้จัดตั้งพุ่มผ้าป่าในบริเวณวัดท่าไทรแทนการตั้งพุ่มที่บ้านของชาวบ้านเหมือนครั้งในอดีต 
                ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นต้นมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน (อ่านประเพณีทอดผ้าป่าออกพรรษาวัดท่าไทร 
                ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์)  
              
              ๑๔.จัดอบรมนักเรียนนักธรรมก่อนเข้าสอบธรรมสนามหลวง 
                เป็นเวลา ๑๕ วันในระหว่างเดือน ตุลาคม 
                - พฤศจิกายน ของทุก ๆ ปี สิ้นเงินในการดำเนินการปีละประมาณ ๓๗,๐๐๐.๐๐ 
                บาท - ๑๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท 
              ๑๕.จัดให้มีกิจกรรมพิเศษ 
                เช่น ฟังเทศน์ สนทนาธรรม เจริญวิปัสสนา ฯลฯ เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา 
                เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา เป็นต้น เป็นประจำทุก 
                ๆ ปี 
       
            ๑๓.โครงการที่กำลังเร่งดำเนินการในปัจจุบัน.- 
             
                           ๑.โครงการ 
                บ้านช่วยวัด-วัดช่วยบ้าน เพื่อให้การสงเคราะห์ชาวบ้านและวัดวาศาสนา 
                ที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น ได้รับอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย สิ้นเงินโดยสาร 
                ตกงาน เป็นต้น โดยนำเงินทุนในการดำเนินการจากผลิตผลทางการเกษตร(ผลไม้) 
                จำนวน ๑๒๐ ไร่ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำสันติธารา (สาขาวัดท่าไทร) ตำบลคลองสระ 
                อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเงินจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคตั้งเป็นกองทุน 
                           ๒.โครงการ 
                สมภารเลี้ยงเณร เพื่อให้การสงเคราะห์พระภิกษุ สามเณรในวัดท่าไทร 
                และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนำรายได้จากผลิตผลทางการเกษตรคือขายยางแผ่นจากสวนยาง 
                จำนวน ๔๐ ไร่ (จากเนื้อที่ทั้งหมด ๖๒ ไร่)ที่ บ้านตาปาน ตำบลกรูด 
                อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
                           ๓.โครงการ 
                พ่อแม่เลี้ยงลูก เพื่อให้การสงเคราะห์ทุนประกอบอาชีพแก่ศิษยานุศิษย์ของวัดท่าไทร 
                โดยนำรายได้จากผลิตผลทางการเกษตร เช่น การขายลองกอง ที่ เขานมพร่า 
                ตำบลป่าร่อน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
                           ๔.โครงการ 
                สวนป่าสมุนไพรในวัด ตามนโยบายและโครงการสวนสมุนไพรในวัดของกรมการศาสนา 
                กระทรวงศึกษาธิการ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการเพื่อดำเนินการ 
                           ๕.โครงการ 
                ทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณร เพื่อให้การสันบสนุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร 
                ในการศึกษาเล่าเรียนนักธรรม บาลี และระดับอุดมศึกษา โดยได้รับเงินจากผู้มีจิตศรัทธา 
                ร่วมบริจาคตั้งเป็นกองทุนเพื่อการนี้ 
                           ๖.โครงการ 
                จักรยานคนจน โดยให้การสงเคราะห์จักรยานแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน 
                ดังเช่น จัดซื้อจักรยานมอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนกาญจนดิษฐ์ เป็นเงิน 
                ๖,๐๐๐.๐๐ บาท 
                           ๗.โครงการ 
                สนับสนุนการแข่งขันกีฬา เพื่อให้การสงเคราะห์งบประมาณสนับสนุนการจัดการ 
                แข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ ดังเช่น ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาของอำเภอกาญจนดิษฐ์ 
                ปีละ ๕,๐๐๐.๐๐ บาท 
                           ๘.โครงการ 
                สงเคราะห์ด้านสาธารณสุข โดยการให้การสงเคราะห์กิจการโรงพยาบาลต่าง 
                ๆ ดังเช่น สนับสนุนการจัดซื้อเตียงคนไข้มอบให้แก่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ 
                จำนวน ๓๐ ชุด เป็นเงิน ๓๖,๐๐๐.๐๐ บาท 
                           ๙. 
                โครงการให้ทุนดำเนินการ โครงการอาหารกลางวันนักเรียน ในโรงเรียนต่าง 
                ๆ ดังเช่น โรงเรียนบ้านม่วงลีบ อำเภอกาญจนดิษฐ์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐.๐๐ 
                บาท 
                           ๑๐.โครงการ 
                สร้างสวนป่าพระมหาชนกเฉลิมพระเกียรติ จำนวน ๔๐ ไร่ ที่ ตำบลหนองไทร 
                อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดหาทุนเพื่อจัดซื้อที่ดินดังกล่าว 
                และเมื่อจัดซื้อเรียบร้อยแล้วจะดำเนินการปลูกป่าไม้ยืนต้น เช่น ไม้ยางนา 
                มะม่วง เป็นต้น 
                           ๑๑.โครงการ 
                มอบพระพุทธรูปสักการะบูชาแก่สถานศึกษา เช่น มอบพระพุทธรูปบูชา 
                หน้าตักกว้าง ๒๙ นิ้ว แก่โรงเรียนบ้านคลองสระ ตำบลคลองสระ อำเภอกาญจนดิษฐ์ 
                เป็นต้น 
                           ๑๒.โครงการ 
                สนับสนุนสถานศึกษาให้พัฒนาการจัดการศึกษา โดยการมอบ "พระสมเด็จมหามงคล 
                วัดท่าไทร รุ่นเรารักประเทศไทย" เนื้อโลหะ ผิวกะไหล่ทอง 
                รุ่นแรกและรุ่นเดียวของประเทศไทย วัดท่าไทรจัดทำขึ้น แล้วมอบให้แก่สถานศึกษา 
                ไปจัดการมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมกับวัดท่าไทรในการสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาแก่สถานศึกษา 
                (โครงการเสร็จสิ้นแล้ว) ดังนี้  
              
                 
                  | - มหาวิทยาลัยราชมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 
                    ห้องเรียนสุราษฎร์ธานี (วัดพัฒนาราม) | 
                    | 
                    | 
                    | 
                 
                 
                  |   (ครั้งแรก 
                    บริจาคเงินสด ๒ ล้าน และครั้งหลังมอบวัตถุมงคล คิดเป็นเงินอีก 
                    ๑ ล้าน) รวม | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๓,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี 
                    เขต ๑ | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                      บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - 
                    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต ๒ | 
                  เป็นเงิน 
                     | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                      	 
                      บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี 
                    เขต ๓ | 
                  เป็นเงิน 
                     | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                      บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 
                    ต.ตลาด อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน 
                     | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                      บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 
                    ๒ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา 
                    ต.ตลาด อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี 
                    ต.ตลาด อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
               
                           ๑๓.โครงการ 
                สนับสนุนสถานโรงพยาบาลของรัฐ โดยการมอบ "พระสมเด็จมหามงคล 
                วัดท่าไทร รุ่นเรารักประเทศไทย" เนื้อโลหะ ผิวกะไหล่ทอง 
                รุ่นแรกและรุ่นเดียวของประเทศไทย วัดท่าไทรจัดทำขึ้น แล้วมอบให้แก่สถานศึกษา 
                ไปจัดการมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมกับวัดท่าไทรในการสนับสนุนโรงพยาบาล 
                จำนวน ๒ แห่ง (โครงการเสร็จสิ้นแล้ว) ดังนี้  
              
                 
                  | - โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 
                    (รพ.ศูนย์สุราษฎร์ธานี) ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
                 
                  | - โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ 
                    อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี | 
                  เป็นเงิน | 
                   
                     ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ 
                   | 
                   
                     บาท 
                   | 
                 
               
                           ๑๔.ทุนการศึกษาสงเคราะห์เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 
                ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทุนการศึกษา แก่นักเรียนในสถานศึกษาต่าง ๆ ดังเช่น.- 
             
            
               
                | -มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 
                  (ทุนเรียนจนจบ ป.ตรี ปีละ ๓ คน) ปีละ | 
                เป็นเงิน | 
                 
                   ๓๐,๐๐๐.๐๐ 
                 | 
                 
                   บาท 
                 | 
               
               
                | -โรงเรียนท่าอุแทวิทยาคม 
                  ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ | 
                เป็นเงิน | 
                 
                   ๑๕,๐๐๐.๐๐ 
                 | 
                 
                    บาท 
                 | 
               
               
                | -โรงเรียนกาญจนดิษฐ์ 
                  อ.กาญจนดิษฐ์ | 
                เป็นเงิน 
                   | 
                 
                   ๑๕,๐๐๐.๐๐ 
                 | 
                 
                    	 
                    บาท 
                 | 
               
               
                | -โรงเรียนวัดท่าไทร(ดิตถานุเคราะห์) 
                  อ.กาญจนดิษฐ์	(ตั้ง พ.ศ.๒๕๒๕) | 
                เป็นเงิน  | 
                 
                   ๒๒๗,๙๖๗.๙๙ 
                 | 
                 
                    บาท* 
                 | 
               
               
                | -โรงเรียนบ้านควนนิมิต 
                  ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์ | 
                เป็นเงิน  | 
                 
                   ๒,๐๐๐.๐๐ 
                 | 
                 
                    บาท 
                 | 
               
             
             
              
                *ทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถมศึกษาของวัดท่าไทร 
                  ธนาคารกรุงไทย สาขาสุราษฎร์ธานี บัญชีเลขที่ ๘๐๗-๑-๖๐๔๒๒-๔ ข้อมูล 
                  ณ วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๔๗  
                 
               
                           ๑๕.โครงการ 
                ให้ทุนดำเนินกิจการร้านสหกรณ์ของสถานศึกษา 
                เพื่อให้สถานศึกษาต่าง ๆ ได้มีการดำเนินการกิจการ สหกรณ์ของนักเรียน 
                โดยนักเรียน และเพื่อนักเรียน ดังเช่น ให้ทุนจัดตั้งกิจการสหกรณ์โรงเรียนวัดท่าไทร(ดิตถานุเคราะห์) 
                เป็นเงิน ๔,๐๐๐.๐๐ บาท 
                           ๑๖.โครงการ 
                ให้การสงเคราะห์อุปกรณ์ในการจัดงานพิธีต่าง ๆ ดังเช่น ให้การสนับสนุน 
                อุปกรณ์แสงเสียง โต๊ะ เก้าอี้ เสื่อ สาด หมอน และเครื่องครัว เช่น 
                ช้อน จาน ชาม เป็นต้น แก่หน่วยงาน ราชการ เอกชน วัด และประชาชนในท้องถิ่น 
                เป็นประจำ  
              สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคสนับสนุนโครงการดังกล่าวได้ที่... 
                           -พระเทพพิพัฒนาภรณ์ 
                เจ้าอาวาสวัดท่าไทร โทร. ๐-๗๗๒๗-๓๘๓๔, ๐๘-๑๖๐๖-๐๒๔๔ 
                 
                             -พระครูอาทรกาญจนคุณ 
                ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าไทร โทร.๐๘-๙๗๒๘-๘๘๙๕ 
                             -พระมหาบุญโฮม 
                ปริปุณฺณสีโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าไทร โทร. 
                ๐๗๗-๒๒๗๗๗๕ 
                 
              หมายเหตุ.- 
                เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ พระมหาบุญโฮม 
                ปริปุณฺณสีโล (ไชยฤทธิ์) ได้พิจารณาเห็นว่าสื่ออินเตอร์เนต เป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนที่รวดเร็ว 
                ประหยัด และมีคุณภาพ จึงได้จัดทำเว็บไซต์วัดท่าไทรขึ้นมา ทำการดูแลและปรับปรุงให้คนทั่วไปได้ค้นคว้าข้อมูลจนกระทั่งปัจจุบัน 
                โดย เป็นผู้เขียน ปรับปรุง อัปเดท และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด 
             
            ********************************************************************************************************** 
               
            บรรณานุกรม 
             
                       บุญโฮม 
                ปริปุณฺณสีโล, พระมหา, ประวัติหลวงพ่อชมและวัดท่าไทร, 
                ศูนย์ฝึกอบรมพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์ วัดท่าไทร, จ.สุราษฎร์ธานี, 
                ๒๕๔๓ 
                         บุญโฮม 
                ปริปุณฺณสีโล, พระมหา, ประวัติพระครูดิตถารามคณาศัย 
                 (พิมพ์ครั้งที่ ๕/๒๕๕๔) หจก.เคทีกราฟฟิค การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์, 
                จ.สุราษฎร์ธานี 
              ***************************************** 
                นำเสนอข้อมูลและดูแลระบบ โดย 
                ศูนย์ฝึกอบรมพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์วัดท่าไทร 
                ประสานงานได้โดย E-Mail ถึง พระมหาบุญโฮม ปริปุณฺณสีโล E-mail 
                : watthasai@gmail.com,songpak16@yahoo.com,fm107.25mhz@gmail.com 
             
            
           |