โครงการสวดมนต์ปีใหม่
ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ นับเป็นโครงการสุดเจ๋งต้อนรับศักราชใหม่ของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
เพื่อให้ชีวิตใหม่ไม่เป็น
"ชีวิตเมา"
โครงการ สวดมนต์ปีใหม่
ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ความเป็นมา
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)
เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ภายใต้มูลนิธิวิถีสุข ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
และภาคีเครือข่าย ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน รัฐวิสาหกิจ คณะสงฆ์และชุมชน
ได้มีการจัดกิจกรรมในโครงการต่าง ๆ เพื่อรณรงค์ให้มีการลด ละ เลิก
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญ งานเทศกาล งานประเพณีและชุมชน โดยผ่านโครงการหลักที่มีพุทธศาสนาเป็นพื้นฐาน
เช่น วัดเขตปลอดเหล้า งดเหล้าเข้าพรรษา ทอดกฐินปลอดเหล้า งานบวชปลอดเหล้า
เนื่องจากต้นปี
๒๕๕๑ ได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.
๒๕๕๑ โดยลงหนังสือราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๕ ตอนที่ ๓๓ ก หน้า ๓๔-๔๘
เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ มีบางมาตราที่เกี่ยวข้องกับวัด/ศาสนสถาน
โดยกำหนดให้วัด/ศาสนสถานเป็นเขตห้ามดื่มและซื้อขาย(มาตรา๒๗,๓๑) และมีบทกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน(มาตรา
๔๐,๔๒)
ต่อมาในการประชุมกรรมการมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๑ กรรมการมหาเถรสมาคมได้มีมติที่ ๒๒๒/๒๕๕๑ เรื่อง ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ชี้แจงให้วัดทุกแห่งปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้วัดเป็นเขตห้ามซื้อห้ามดื่ม
หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย
คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ
และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๔๒ ง หน้า ๑๓ ทำให้วันเข้าพรรษาประจำปี
๒๕๕๒ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาตินั้น นายกรัฐมนตรี
ในนามรัฐบาลได้ให้คำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ว่า เลิกเหล้าเข้าพรรษา
พาครอบครัวเป็นสุข เพื่อให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญในการรักษาศีลในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
ล่าสุด
รัฐบาลกำหนดให้วันสำคัญทางศาสนา ๔ วัน คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา
วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เป็นวันห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ตามที่ปรากกฎในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๙๖ ง ลงวันที่
๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒ พร้อมกันนั้น มหาเถรสมาคม ได้มีมติที่ ๒๖๒/๒๕๕๒ เรื่อง
สนับสนนุให้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ลงวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ อีกด้วย
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการ
เอกชน พระสงฆ์และประชาชน ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนและรณรงค์การงดเว้นจากเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการตระหนักในโทษภัยทางด้านศีลธรรม
สุขภาพและกฎหมาย พร้อมสรรหาแนวทางที่จะเคลื่อนประสานงานให้เป็นรูปธรรมระหว่าง
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เอกชน พระสงฆ์และประชาชนทั่วไป เครือข่ายองค์กรงดเหล้าและภาคี
จึงสนับสนุนให้มีกิจกรรมน่าจะมีการส่งเสริมให้วัดและสำนักปฏิบัติธรรมต่าง
ได้จัดกิจกรรมทางเลือกในการทำความดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่คนมักใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยการจัดปฏิบัติธรรมสวดมนต์ข้ามปี ๒๕๕๓ ตามแนวคิด สุขใจ ปีใหม่วิถีพุทธ
หยุดภัยน้ำเมา ขึ้น จำนวน ๓๐ วัดทั่วประเทศ
วัตถุประสงค์ของโครงการ
๑.เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.เพื่อสนับสนุนให้วัด
ชุมชนและภาคีเครือข่ายงดเหล้าในพื้นที่ได้ร่วมฟื้นคุณค่าความดีงาม
คุณค่าสาระของการทำความดี โดยอาศัยจังหวะ เวลาและเทศกาลที่เหมาะสมตามเงื่อนไขและความพร้อมของแต่ละบุคคลและพื้นที่
ต่างๆ ในการเริ่มต้น พร้อมทั้งเป็นการปิดช่องทางสำหรับธุรกิจแอลกอฮอล์ในการอาศัยพื้นที่วัด
เป็นเงื่อนไขในการรุกคืบทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในเขตพุทธสถาน
๓.เพื่อขยายผลช่องทางหรือพื้นที่สำหรับการทำความดีผ่านสื่อต่างๆ
ให้แก่บุคคลทั่วไป ทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน ได้รับรู้เพื่อจะได้รู้จักเลือกกิจกรรมที่ส่งเสริมการเป็นคนดีมีศีลธรรม
นอกจากนั้น
๔.เพื่อประสานานและแสวงหาหาภาคี
องค์กรหรือหน่วยงานที่เน้นสร้างเสริมศีลธรรมในสังคมไทย ร่วมมือทำงานให้มีความรู้และเข้าใจหลักธรรมอย่างแท้จริง
ในพื้นที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่ดีในครั้งนี้ด้วย
เป้าหมายของการจัดโครงการ
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
องค์กรเอกชน คณะสงฆ์และทีมงานประชาคมงดเหล้าจังหวัด ร่วมมือวางแผนและดำเนินกิจกรรมอย่างแน่นแฟ้น
มีศักยภาพในการนำเสนอหลักธรรม ข้อมูลเกี่ยวกับโทษภัยของเหล้าและอบายมุขทุกชนิด
สามารถเป็นผู้นำด้านการให้ความรู้เชิงประยุกต์กับหลักธรรมได้อย่างสร้าง
สรรค์และน่าสนใจ
พื้นที่เป้าหมาย
๑)
วัดที่เข้าร่วมโครงการจำนวน ๓๕ วัด ใน ๓๐ จังหวัดทั่วประเทศ
๒)
สำนักปฏิบัติประจำจังหวัดทั่วประเทศกว่า ๑,๐๑๖ แห่ง
๓)
บุคลการในหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชน คณะสงฆ์ ทีมงานประชาคมงดเหล้า
และประชาชนทั่วไปที่รับรู้โครงการและได้ร่วมกิจกรรมใน โครงการฯ
กลุ่มเป้าหมาย
๑.เด็ก
เยาวชน นิสิตนักศึกษา ชมรมคนบวชใจ คนต้นแบบและผู้สูงอายุในพื้นที่เป้าหมาย
๒.ครู
พระและผู้ประสานงานจังหวัด ผู้ประสานงานภาคและภาคีเชิงประเด็น
๓.ชุมชนและหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป้าหมาย
ระยะเวลาโครงการ
๓ เดือน (พฤศจิกายน ๒๕๕๒ มกราคม ๒๕๕๓)
ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม
๒ วัน (๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ๑ มกราคม ๒๕๕๓)
วัดที่เข้าร่วมโครงการ
จำนวน ๓๕ วัด ใน ๓๐ จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่
กรุงเทพมหานคร
1.วัดสร้อยทอง
เขตบางซื่อ
2.วัดยานนาวา
เขตสาทร
3.วัดพรหมวงศาราม
เขตดินแดง
4.วัดเทพลีลา
เขตบางกะปิ
5.วัดพระศรีมหาธาตุ
เขตบางเขน
ภาคเหนือตอนบน
1.วัดพระสิงห์
อ.เมือง จ.เชียงราย
2.วัดพระสิงห์ อ.เมือง
จ.เชียงใหม่
3.วัดพระธาตุศรีจอมทอง
อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
4.วัดพระธาตุหริภุญชัย
อ.เมือง จ.ลำพูน
ภาคเหนือตอนล่าง
1. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วรมหาวิหาร อ.เมือง จังหวัดพิษณุโลก
2. วัดท่าหลวง อ.ท่าหลวง
จังหวัดพิจิตร
3. วัดคลองโพธิ์ อ.คลองโพธิ์
จังหวัดอุตรดิตถ์
4. วัดหนองโว้ง อ.หนองโว้ง
จังหวัดสุโขทัย
ภาคอีสานตอนบน
1.วัดป่าแสงอรุณ อ.เมือง
จ.ขอนแก่น
2.วัดศรีสวัสดิ์ อ.เมือง
จ.มหาสารคาม
3.วัดสระพังทอง อ.เมือง
จ.มุกดาหาร
4.วัดไพรีพินาศ อ.เมือง
จ.ชัยภูมิ
5.วัดศรีพันดอน อ.ภูเรือ
จ.เลย
ภาคอีสานตอนล่าง
1.วัดทุ่งศรีเมือง อ.เมือง
จ.อุบลราชธานี
2.วัดทุ่งโพธิ์ อ.เมือง
จ.บุรีรัมย์
3.วัดโพธิการาม อ.ปทุมรัตน์
จ.ร้อยเอ็ด
4.วัดสะเดารัตนาราม อ.ปราสาท
จ.สุรินทร์
ภาคกลาง
1.วัดพระนอนจักรสีห์
อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
2.วัดต้นสน อ.เมือง จ.อ่างทอง
3.วัดศรีบุรีรัตนาราม
อ.เมือง จ.สระบุรี
ภาคตะวันออก
1.วัดโสธร อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
2.วัดนครธรรม อ.วัฒนานคร
จ.สระแก้ว
3.วัดโพธิ์ทอง อ.เมือง
จ.จันทบุรี
ภาคตะวันตก
1.วัดหนองโพ อ.โพธาราม
จ.ราชบุรี
2.วัดป่าเรไร อ.เมือง
จ.สุพรรณบุรี
3.วัดนางสาว อ.กระทุ่มแบน
จ.สมุทรสาคร
ภาคใต้
1.วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
2.วัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง
3.วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
4.วัดสุวรรณวิชัย
อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
21 วัดทั่วกรุงเทพฯ ที่จัดสวดมนต์ปีใหม่อยู่แล้ว
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร,
วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร, วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร,
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร, วัดยานนาวา, วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร,
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร, วัดชัยชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดมหรรณพารามวรวิหาร,
วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร, วัดสังข์กระจาย, วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก,
วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร, วัดเทพลีลา, วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร,
วัดพระศรีมหาธาตุ(บางเขน), วัดราชสิงขร, วัดดาวดึงส์, วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร,
วัดธรรมมงคล
วัดท่าไทร
จัดให้มีพิธีเค้าท์ดาวน์นับถอยหลัง ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ เป็นประจำทุกปี
วัดท่าไทร
ร่วมกับประชาชนพุทธบริษัท จัดให้มีพิธีเค้าท์ดาวน์นับถอยหลัง ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่
เป็นประจำทุกปี ในวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี โดยเริ่มพิธีตั้งแต่เวลา
๒๓.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งเสร็จพิธี(ประมาณ ๐๐.๓๐ น. ของวันที่
๑ มกราคม) เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามวิถีพุทธของไทย
ร่วมเจริญจิตภาวนาฝึกอบรมจิตใจ เสริมสร้างบารมีธรรม เพิ่มสิริมงคล
เสริมดวงชะตาให้แก่ชีวิต รับพร รับสิริมงคล และรับน้ำพระพุทธมนต์จากพระสงฆ์
โดยมี พระเดชพระคุณ พระเทพพิพัฒนาภรณ์ (พระมหาชูชาติ) เจ้าอาวาสวัดท่าไทร
และเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานสงฆ์ ณ ศาลาการเปรียญวัดท่าไทร
ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
วันที่
๑ มกราคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น.เป็นต้นไป เริ่มประกอบพิธีทำบุญตักบาตรต้อนรับปีใหม่
(ตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง) ณ บริเวณวัดท่าไทร เพื่อเสริมสร้างบารมีธรรม
เพิ่มสิริมงคล และเสริมดวงชะตาให้แก่ชีวิต เนื่องในวันปีใหม่ เริ่มปีใหม่ด้วยบุญกุศลหนุนนำส่งให้ชีวิตมีความสุข
สดชื่น สมหวัง ประสบแต่สิ่งอันพึงปรารถนา และเจริญรุ่งเรืองตลอดปี
และตลอดไป โดยมีประชาชนพุทธบริษัทเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมากมายทุกปี
ที่มา : www.stopdrink.com
ข้อมูลที่ควรอ่านเพิ่มเติม.-
มติมหาเถรสมาคม
สนับสนุนโครงการสวดมนต์ปีใหม่ สุขใจได้บุญ
ประเพณีทำบุญปีใหม่
ต้อนรับปีใหม่ด้วยวิถีพุทธ
วันขึ้นปีใหม่
สวดมนต์ปีใหม่
**************************
|